Apple ประกาศเปิดตัว iPhone X, และน้องใหม่ตัวใหญ่ iPhone XS Max, และรุ่นกระเป๋าไม่ฉีก iPhone XR.





Apple ปรากาศเปิดตัว iPhone X, และน้องใหม่ตัวใหญ่  iPhone XS Max, และรุ่นกระเป๋าไม่ฉีก iPhone XR. มาครบทั้งสามรุ่นตามคาด, งานดีไซน์ไม่เปลี่ยน, ยกเว้นรุ่นใหญ่ที่มาพร้อมจอขนาด  
6.5-นิ้ว

เริ่มกันที่รุ่น  5.8-นิ้วและ 6.5-นิ้ว iPhone XS และ XS Max phones ทั้งสองมาพร้อมหน้าจอแบบ Super Retina OLED displays ทาง  Apple เคลมไว้ว่าครอบคลุมเฉดสีได้มากขึ้นแถมด้วยหน้าจอที่ปกป้องด้วยแผ่นกระจกที่ทนทานมากขึ้น. ความหนาแน่น, ไม่ว่าจะเป็นรุ่น XS Max และ iPhone XS มีค่าอยู่ที่458 ppi แต่ความละเอียดของรุ่น XS Max จะอยู่ที่ 2688x1242 resolution ( iPhone XS มีค่าความละเอียดที่  2436x1125 resolution เท่ากับ iPhone X), ค่าความต้านทานฝุ่นและน้ำอยู่ที่ระดับ IP68 water และรองรับซิมสองตัว  (ใช้ eSIM).


ใช้ชิป A12 Bionic ใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน, และกล้องตัวใหม่แถมด้วยฟีเจอร์ต่างๆถูกปรับแต่งให้ดีขึ้น.
Apple เคลมไว้ว่า A12 Bionic chip ตัวนี้เป็นตัวแรกของโลกที่เป็น  7nm (Hauwei 7nm Kirin 980 จะตามออกมาประมาณกลางเดือน 15 ตุลาคม), ข้อดีคือใช้พลังงานที่น้อยลงแต่ประสิทธิภาพดีมากขึ้น.
สำหรับชิป A12 Bionic มาพร้อมจำนวนแกน 6-core CPU (แบบเดียวกับ  A11), แต่ยังคงใช้สถาปัตยกรรมของทาง Apple-designed Fusion architecture. Apple กล่าวเพิ่มเติมว่า, จะมีสองแกนที่มี ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึง  15% และประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 40%”, และที่เหลืออีก 4 แกนจะประหยัดพลังงานมากถึง  50%” ส่วนทางด้านกราฟฟิก, ตอนนี้เป็น  4-core design, ดีขึ้นถึง  50% fasterหากเทียบกับรุ่นก่อน.


ทางด้านกล้องปรับปรุงดีขึ้นกว่าดีก่อน, มีฟีเจอร์ f-stop adjustment/ปรับค่าได้หลังจากถ่ายรูปไปแล้ว, มีการทดสอบให้เห็นความแตกต่างกับ  DSLR. นอกจากนั้นยังปรับปรุงทางด้าน, speakers/ลำโพง, อัดเสียงแบบ stereo + video, และ "Gigabit-class" LTE.
ในรุ่น  iPhone XR จอภาพแบบ  LCD ทำราคามาเอาใจคนที่อยากสัมผัสนวัตกรรมใหม่ๆแต่กระเป๋าไม่ฉีก



ถือว่าได้ฟีเจอร์ หลักๆจาก iPhone X design, แต่จอภาพเป็น LCD display หรือเรียกว่า  Liquid Retina”. หน้าจอขนาด  6.1-นิ้วและมาพร้อมความละเอียดที่  1792x828 (326 ppi), ใช้ชิปตัวใหม่ A12 chip, ส่วนกล้องมีมาให้แค่ตัวเดียวเหมือนกับรุ่น  iPhone 8 แต่ฟีเจอร์จะเหมือนกับรุ่น “S”.
หน้าจอฟีเจอร์  “120 Hz touch-sensing/ทัชสกรีน” – แต่ตัวเลขน่าจะเป็นคนละตัวกับ  display refresh ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด ทางด้านเฉดสีหรือ wide color gamut, และระบบ True Tone display อย่าง iPhone X ก็มีให้. สิ่งที่ไม่มี, เช่น 3D Touch, และ "Gigabit-class LTE" ซึ่งจะมีในรุ่น XS/XS Max, ค่าต้านทานฝุ่นและน้ำระดับ  IP67 และได้กระจกที่มีความทนทานแบบเดียวกับรุ่น "S".
ราคาเปิดขายที่ :


iPhone XS 128GB - $999
iPhone XS 256GB - $1149
iPhone XS 512GB - $1349
iPhone XS Max 128GB - $1099
iPhone XS Max 256GB - $1249
iPhone XS Max 512GB - $1449
iPhone XR 64GB - $749
iPhone XR 128GB - $799
iPhone XR 256GB - $899


สำหรับ iPhones XS และ XS Max จะวางจำหน่ายในวันเดียวกันกับวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่  21 ที่จะถึงนี้  ( รับสั่งจองตั้งแต่วันที่ 14 หรือศุกร์นี้เป็นต้นไป). ส่วน iPhone XR จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที 26 ตุลาคมและให้สั่งจองตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคมเป็นต้นไป .


ที่มาเครดิต/Sources: https://www.pcper.com

Comments